รีวิว Dominion of Darkness (2024) – กัวซา ผีสาปนรกส่ง

 

ภาพยนตร์สยองขวัญจากอินโดนีเซีย ที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงเกี่ยวกับการขับไล่ภูตผีและวิญญาณร้ายในพิธีคริสต์นิกายคาทอลิก พร้อมการตั้งคำถามถึงศรัทธาและการดิ้นรนต่อสู้กับความมืดภายใน

ข้อมูลเบื้องต้น

  • ผู้กำกับ: Bobby Prasetyo
  • นำแสดงโดย: Jerome Kurnia, Lukman Sardi, Astrid Tiar, Lea Ciarachel
  • ปีที่ฉาย: 2024
  • ความยาว: ประมาณ 96 นาที
  • คะแนน IMDb (ชั่วคราว): 5.6 / 10

เรื่องย่อ (ไม่สปอยล์หนัก)

พระหนุ่มชื่อ Thomas สูญเสียแม่และพี่สาวจากอุบัติเหตุอันโหดร้าย เขาตัดสินใจลาออกจากการเป็นบาทหลวง เพราะขาดศรัทธา แต่แล้วเขาถูกมอบหมายให้ช่วยบาทหลวงรุ่นพี่ Rendra ในการขับไล่ผีในร่างเด็กหญิงวัยรุ่น Kayla ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของพี่สาวเขา

เมื่อเหตุการณ์ดำเนินไป Thomas และ Rendra พบว่า Kayla ไม่เพียงถูก “ผีสิง” เท่านั้น แต่เงามืดในอดีตและความผิดของ Maya แม่ของ Kayla ก็กำลังผุดขึ้นมา และวิญญาณร้ายไม่ใช่แค่สิ่งที่อยู่ภายนอก แต่ยังกระตุกให้เชื่อมโยงกับความกลัว ความผิด และการสูญเสียของตัวละครหลัก

สปอยล์เต็ม

Thomas เข้าร่วมพิธีขับไล่ในห้องใต้ดินของคริสตจักร โดย Rendra เป็นผู้นำการพิธี เริ่มจากเสียงร้องขอความช่วยเหลือจาก Kayla และภาพสะท้อนอดีตของ Maya ที่เธอรู้สึกว่าตนเองเป็นต้นเหตุของการตายของพี่สาว Kayla

ในช่วงกลางของเรื่อง Thomas ต้องเผชิญกับภาพหลอนที่แม่ของเขาเคยพูดว่า “ความผิดไม่เคยจบ” และเห็น Kayla เดินโซซัดโซเซในคืนหนึ่งพร้อมรอยสักโบราณบนหลังของเธอ ซึ่งเชื่อมโยงกับการเซ่นถวายปีศาจ Zababel

เมื่อพิธีขับไล่เดินหน้าไป เสียงสวด เสียงโห่ร้อง และดวงไฟเทียนถูกใช้เป็นเครื่องมือ Thomas ถูกทดสอบศรัทธาเมื่อ Rendra ถูกบาดเจ็บหนัก เครื่องเสียงไฟดับ และ Kayla เริ่ม “พูด” ด้วยเสียงอื่น — เธอเผยว่า Maya เคยเป็นสมาชิกของพิธีแห่ง Zababel และได้แลกชีวิตพี่สาว Kayla เพื่อพลัง

ในตอนท้าย Thomas ต้องเผชิญหน้ากับ Zababel ตนจริงในห้องใต้ดิน — Rendra ใช้น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ Thomas ใช้คำภาวนาแบบโบราณ และทั้งสองร่วมกันดึง Kayla ออกจากร่างของปีศาจ เมื่อ Zababel โจมตี Maya และ Kayla ถูกควบคุม Thomas โอบกอด Kayla ขณะที่ Zababel ถูกผนึกในห้องใต้ดินโดยคำสวดและแสงเทียน… แต่หนังจบลงด้วยภาพที่ Maya มองกล้องด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น พร้อมข้อความว่า “พิธีนี้เพิ่งเริ่ม”

บทวิจารณ์

จุดแข็ง:
– บรรยากาศอึดอัดและสร้างความกดดันได้ดี โดยเฉพาะฉากพิธีขับไล่และเสียงพื้นหลังที่ช่วยเพิ่มความหลอนอย่างมีชั้นเชิง
– การนำเสนอเรื่องศรัทธาและการเผชิญหน้ากับอดีต ที่มีกลิ่นความเป็นสารคดีผสมกับหนังสยองขวัญ ทำให้ดูมีน้ำหนักมากกว่าผีเบาๆ
– การใช้ฉากจริงของพิธีและคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางศาสนาช่วยให้หนังดูสมจริงขึ้น

จุดอ่อน:
– โครงเรื่องบางช่วงคาดเดาได้สำหรับผู้ชมที่คุ้นเคยหนังขับไล่ผี และสัญลักษณ์บางส่วนอาจดูซ้ำซากในแนวสยองขวัญ
– เนื่องจากตัวหนังเน้นบรรยากาศมาก อาจมีผู้ชมบางส่วนรู้สึกว่าความลึกของตัวละครยังน้อยเมื่อเทียบกับหนังสยองขวัญระดับเดียวกัน

ตัวอย่างภาพยนตร์จาก YouTube

ที่มา: YouTube – Dominion of Darkness Official Trailer

สรุป

โดยรวมแล้ว Dominion of Darkness เป็นหนังสยองขวัญที่เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชอบความหลอนแบบเน้นพิธีกรรม โดยเฉพาะผู้ที่สนใจในเรื่องราวการขับไล่ภูตผีและศรัทธาที่ถูกทดสอบ ภาพและเสียงถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ แต่มันอาจไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาหนังสยองขวัญที่แปลกใหม่สุดขีดหรือเน้นตัวละครลึกมากนัก

Author: giga

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *