รีวิว Hellraiser (2022) – บิดเปิดผี

ตำนาน “กล่องปริศนาแห่งความเจ็บปวด” กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชัน 2022 ภายใต้การตีความใหม่ของผู้กำกับ David Bruckner ที่มอบความสยองและศิลปะแห่งความทรมานให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัส

ข้อมูลเบื้องต้น

  • ผู้กำกับ: David Bruckner
  • นำแสดงโดย: Odessa A’zion (รับบท Riley), Jamie Clayton (รับบท Pinhead), Drew Starkey, Goran Visnjic
  • แนวภาพยนตร์: สยองขวัญ / จิตวิทยา / แฟนตาซี
  • ปีที่ฉาย: 2022 (สตรีมมิ่งผ่าน Hulu และ Disney+ Hotstar)
  • คะแนน IMDb: 6.0 / 10 (ดูที่ IMDb)

เรื่องย่อ (ไม่สปอยล์หนัก)

Riley หญิงสาวที่กำลังดิ้นรนกับการเสพติดและชีวิตที่ไร้จุดหมาย ได้รับกล่องปริศนาลึกลับจากแฟนหนุ่มโดยไม่รู้ว่ามันคือ “Lament Configuration” กล่องเชื่อมต่อกับมิติแห่งความทรมานของ Cenobites — สิ่งมีชีวิตที่ทั้งทรมานและหลงใหลในความเจ็บปวด … เมื่อเธอเปิดกล่องนั้น ชีวิตของเธอและคนรอบข้างก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


สปอยล์เนื้อเรื่องแบบเต็ม

เรื่องเริ่มจากเศรษฐีชื่อ Roland Voight ผู้หมกมุ่นกับ “ความสุขผ่านความเจ็บปวด” เขาเปิดกล่องปริศนาและถูก Pinhead หัวหน้ากลุ่ม Cenobite ดึงเข้าสู่มิติอื่น หกปีต่อมา Riley พบกล่องเดียวกันในโกดังร้าง เธอกับแฟนหนุ่ม Trevor พยายามเปิดเพื่อหาความลับและสมบัติ แต่กลับทำให้พี่ชายของ Riley คือ Matt ถูกกล่องเลือกเป็นเหยื่อ และหายตัวไปในเลือดสาด เธอจึงออกตามหาคำตอบ

ระหว่างทาง Riley ได้พบกับเอกสารและคำบอกเล่าของ Voight ที่รอดชีวิตออกมาจากนรก เขาเผยว่ากล่องนี้มี 6 รูปแบบ แต่ละแบบเป็น “รางวัล” จากเทพ Leviathan — ได้แก่ Lament (ชีวิต), Lore (ความรู้), Lauderant (ความรัก), Liminal (ความรู้สึก), Lazarus (การคืนชีพ), และ Leviathan (พลังสูงสุด)
ทุกครั้งที่เปลี่ยนรูปแบบ กล่องจะต้อง “เลือกเหยื่อใหม่”

เมื่อ Riley ตระหนักว่ากล่องนี้ต้องแลกด้วยชีวิตคน เธอพยายามหยุดมัน แต่ Trevor กลับเปิดเผยว่าเขาทำงานให้ Voight ผู้ยังคงมีชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ Voight ใช้กลไกฝังโลหะบนร่างเพื่อรับ “รางวัล” แต่ความเจ็บปวดไม่สิ้นสุด เขาจึงล่อ Riley มาเปิดกล่องครั้งสุดท้ายเพื่อเปลี่ยนรางวัล
ในตอนจบ Riley เลือก “Lament” คือการปฏิเสธรางวัลทั้งหมด Pinhead พูดว่า “เจ้าจะได้ของขวัญคือการมีชีวิตอยู่ พร้อมความทรมานจากการสูญเสีย” Voight ถูก Cenobite ลากกลับสู่นรก และกล่องปริศนาก็ปิดตัวลงอีกครั้ง


บทวิจารณ์

จุดแข็ง

  • โทนภาพและงานศิลป์ของ Cenobites ถูกดีไซน์ใหม่ให้ดู “เรียบแต่หลอน” แทนการใช้ชุดหนังแบบเดิม ให้ความรู้สึกเหมือน “ศิลปะของความทรมาน”
  • Jamie Clayton ในบท Pinhead ให้พลังเย็นยะเยือกและสง่างาม ต่างจากเวอร์ชัน Doug Bradley แต่ยังคงเอกลักษณ์แห่งความกลัว
  • การตีความใหม่ของกล่องปริศนาให้มีระบบระดับและรางวัล ช่วยเพิ่มมิติให้กับจักรวาล Hellraiser มากขึ้น

จุดอ่อน

  • จังหวะของเรื่องค่อนข้างช้าในช่วงกลาง และใช้เวลานานก่อนเข้าสู่ฉากสยองเต็มรูปแบบ
  • ตัวละครรองหลายคนไม่ได้รับการขยายความมากพอ ทำให้ความรู้สึกอินในชะตากรรมของพวกเขาน้อยลง

โดยรวม Hellraiser (2022) คือการรีบูตที่ “เคารพต้นฉบับแต่เพิ่มความร่วมสมัย” — มันไม่ใช่หนังผีตุ้งแช่ทั่วไป แต่คือบทกวีของความเจ็บปวด เหมาะกับแฟนสายโหด เลือดสาด และผู้ที่ชอบตีความสัญลักษณ์ทางศาสนา-ความเชื่อ เรื่องบาป-บุญ-ความปรารถนา


ตัวอย่างภาพยนตร์จาก YouTube

ที่มา: YouTube – Hellraiser (2022) Official Trailer | Hulu


สรุป

Hellraiser (2022) เหมาะกับคนที่ชอบหนังสยองแนวจิตวิทยา โทนเย็น ดิบ และตั้งคำถามถึงความหมายของ “ความสุขผ่านความทรมาน” มันคือการกลับมาของแฟรนไชส์ระดับตำนานที่ยังรักษาเอกลักษณ์ของ Clive Barker ไว้ครบถ้วน

Author: giga

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *